วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กรรมของมนุษย์เงินเดือน

บทความนี้ เป็นบทความที่อ่านแล้วเห็นภาพเลยครับว่า มนุษย์เงินเดือนนั้นมีกรรมยังไง



วันเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว เป็นวันแรกที่ผมเริ่มทำงาน
เป็นบริษัทแรกที่ ผมทำงานในเชียงใหม่ และอาจเป็นบริษัทสุดท้ายในชีวิต
ขอขอบคุณ ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
อาจเป็นงาน ประจำ หรือ มนุษย์เงินเดือน หรือ ลูกจ้าง ครั้งสุดท้ายในชีวิตแล้ว
อาจารย์ คนหนึ่งเคยบอกผมว่า
ครอบ ครัวต่างประเทศเขาสอนว่า “เรียนหนังสือให้เก่ง เพื่อจะได้เป็นเจ้าของกิจการ”
ครอบ ครัวไทยเขาสอนว่า “เรียนหนังสือให้เก่ง เพื่อจะได้มีงานดีดีทำ”
ก็เลยทำ ให้ ชีวิตของคนไทยหลายคน มีฝันที่ค้างเติ่ง
แล้ว เอาชีวิตไปแขวนไว้ กับ นรกดีดีนี่เอง
สถาบันการศึกษา ก็เลยตั้งหน้า ผลิต นักศึกษา ออกไปเป็นลูกจ้าง
เพิ่งกลับลำได้ไม่กี่ปีนี้เองว่า .. มันมาผิดทาง เพิ่งมากระตุ้น โครงการผู้ประกอบการกลุ่มนักศึกษาจบใหม่
ผมเรียก ‘นรก’ เพราะว่า มีไม่กี่คนเลย ที่จะได้ไปถึงเงินเดือนระดับแสนกว่าบาท
แล้ว มีเวลาให้ครอบครัว พักผ่อน เสาร์ อาทิตย์
และ ที่ สำคัญ ได้มีเวลามากพอที่จะได้เสพสุขจากเงินที่หามาทั้งชีวิต
ที่ เหลือ คือ คนทำงานที่มีความสุขกับการได้รับเงินทุก ๆ 30 วัน
ประมาณว่า 90 เปอร์เซ็นต์ .. ของคนที่เป็น มนุษย์เงินเดือนทั้งหมด
พอกินมั่ง ไม่พอกินมั่ง หาเงินไปใช้หนี้บัตรเครดิตมั่ง
‘นรก’ มาเยือนเมื่อ อายุ 50 ซึ่งเป็นวัยเกษียณ
ชีวิตหลังจากนี้แหละ คือ ‘นรก’ ที่ยากจะเกินกว่าจินตนาการถึง
มาลองเล่นเกมส์นี้ดูดีกว่า
หาก ผมอายุยืนยาวถึง 75 ปี .. เงินเก็บเท่าไหร่ถึงจะพอที่จะอยู่ได้อย่างสบาย
ลอง คิดเล่น ๆ
1. 75 ปี – 50 ปี = 25 ปี
2. 25 ปี x 365 วัน = 9,125 วัน
ผมต้องมีชีวิตต่อไปหลังจากเกษียณแล้ว 9,125 วัน
ตัวที่ 1 อาหาร
3. อาหารที่ดี(เพราะแก่แล้ว) มื้อละ40 บาท x 3 มื้อ = 120 บาท
4. 120 บาท x 9,125 วัน = 1,095,000 บาท
ผมต้องเตรียมค่าอาหาร ที่ดีไว้ 1,095,000 บาท
* อันที่จริงอาหารมื้อละ 40 บาท เนี่ย ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่หรอกนะ สำหรับ
วัยที่เลย 50 ไปแล้ว
ตัว ที่ 2 เครื่องนุ่งห่ม
5. รวมทุกอย่างเลยนะครับ กางเกงใน,รองเท้า,เข็มขัด,ชุดงานสังคม,ชุดนอน
เฉลี่ยออกมาวันละ 100 บาท ( เดือนละ 3,000 บาท หุหุ นี่ยังไม่ได้รองเท้า
กับชุดเสื้อผ้า 1 ชุดเลยนะครับ อ้อ บวกค่าผงซักฟอก , ค่าไฟรีดผ้า , ค่า
ไฟเครื่องซักผ้า รวมถึง จ้างคนซักรีด ( วัยขนาดนั้นจะไปทำอะไรไหว) ค่า
ซ่อมแซมกระดุม , เป้าขาด , ค่าตู้เก็บเสื้อผ้า , ไม้แขวนเสื้อ ฯลฯ )
วันละ 100 บาท x 9,125 บาท = 912,500 บาท
ผมต้องเตรียมเงินสำหรับ เครื่องนุ่งห่ม 912,500 บาท
ตัวที่ 3 ยารักษาโรค
6. อันนี้หละของจริง
มนุษย์ เงินเดือน ทำงานเพื่อรอรับโรค และ ความทุกข์ทรมานตรงนี้เอง
ผมประมาณว่า 30 บาทรักษาทุกโรค จะให้ยาดีดีกับผมได้ระดับหนึ่ง
ผมประมาณว่าวันละ 100 บาท สำหรับ ค่ายารักษาโรคออดๆ แอดๆ
ที่ผมต้องเจอตอนแก่ ..
วันละ 100 บาท x 9,125 บาท = 912,500 บาท
ผมต้องเตรียมเงินสำหรับ ยารักษาโรค 912,500 บาท
ตัว ที่ 4 ที่อยู่อาศัย
7. อันนี้แหละยิ่งกว่าจริง
มนุษย์ เงินเดือน เพื่อนผมหลายคน เงินเดือนที่ สองหมื่นกว่าบาท ยัง
ต้องผ่อน บ้านเล็กๆ 40 ตารางวา นานถึง 30 ปี (ผ่อนหมดตอนอายุ 62 ปี)
(บ้านเล็กๆ 2 ชั้น ราคา 1,800,000 บาท ในเชียงใหม่)
แต่ต้องเกษียณตอน 50 ปี .. น่าเศร้าครับ
เพราะ เพื่อนต้องทำงานต่อไป เพียงเพื่อจะมีที่ให้หลับนอนอีก 12 ปี
เดือนละ 5,200 กว่าบาท
ผม เอาของเพื่อนคนนี้เป็นหลักละกัน และผมเพิ่มให้ คือ ค่าส่วนกลาง
ค่าขยะ , ค่ารปภ. , ค่าไฟฟ้า , ค่าน้ำประปา , ค่าโทรศัพท์ , ค่าดูดส้วม
ค่าซ่อม แซมบำรุงบ้าน , ค่าเลี้ยงหมา , ค่าต้นไม้และปุ๋ย
ประมาณรวมว่า เดือนละ 3,000 บาท รวมค่าผ่อนบ้านเป็น 8,200 บาท
แยกเป็น
1. 8,200 บาท x 12 ปี ที่ต้องผ่อนบ้านต่อ = 1,180,800 บาท
2. 3,000 บาท x 13 ปี ที่ผ่อนบ้านหมด แต่ยังไม่ตาย = 468,000 บาท
ผมต้องเตรียมเงิน สำหรับ ที่อยู่อาศัย 1,648,800 บาท
เครียดยังเนี่ย หุหุ
เอามารวม กันทั้งหมดดีกว่าเป็นเท่าไหร่ ? หนอ ..
โอ้ จอร์จ ไม่เยอะหรอกแค่ 4,568,800 บาท เท่านั้น
ผมเอามาหาร 9,125 วัน เพื่อให้รู้ว่า
ผม ต้องเก็บเงินวันละเท่าไหร่ เพื่อให้ได้เงิน 4,568,800 บาท ไว้ใช้
โอ้ ไม่มากเลยวันละ 501 บาท เท่านั้นเอง
แต่ ความฝันของมนุษย์เงินเดือนไม่ได้ สวยหรูอย่างที่เห็นเลย
ผมทำงานที่ กรุงเทพฯ เงินเดือน เดือนละ 17,500 บาท
หัก ประกันสังคม , ภาษี แล้ว เหลือ 16,558 บาท
สรุปแบบรวบยอดว่า
1. ค่าอาหาร เดือนละ 4,000 บาท
2. ค่าเสื้อผ้า เดือนละ 500 บาท
3. ค่าที่อยู่ เดือนละ 3,500 บาท
4. ค่าเดินทาง เดือนละ 1,000 บาท
5. ค่าสื่อสาร เดือนละ 750 บาท
6. ค่าพักผ่อนหย่อนใจ เดือนละ 1,000 บาท
7. ค่าหนังสือ เดือนละ 400 บาท
8. ภาษีสังคม เดือนละ 500 บาท
รวม 11,650 บาท ผมมีเงินเหลือตั้ง 4,908 บาท แหนะ
เหมือนจะพอนะครับ ..หุหุ
แต่ตามแผน ผมต้องเก็บเงินให้ได้ วันละ 501 บาท
นั่น ก็คือ ผมต้องเก็บเงินให้ได้ เดือนละ 15,030 บาท
เศร้าเลยอะดิครับ ก็ ผมเหลือเงิน แค่เดือนละ 4,908 บาท
นี่ ยังไม่นับ
เงินเก็บที่จะไปดาวน์รถยนต์ ,
ค่าผ่อนรถ ,
ค่า น้ำมัน ,
ค่าภาษีรถทุกปีอีก ,
ค่ายาง ค่าอะไหล่ ค่าน้ำยาแอร์ ค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอีก
แล้วไหนจะค่าอินเทอร์เน็ตรายเดือน ,
ค่า ผ่อนมือถือเครื่องใหม่ ,
ค่าคอมพิวเตอร์ใหม่อืดเหมือนเต่าที่อยากโละ ทิ้ง อีก
ยังไม่รวม ค่าดูแลพ่อกับแม่อีกนะ
โอ้ .. วันเกิดแฟน แฟนก็สำคัญนะ , วันเกิดเพื่อนอีกละ ซี้มานาน
วันปีใหม่ ที่ทำงานแลกของขวัญ ต้องไปซื้ออีก
อ๊าว สงกรานต์นี้ ไปเที่ยวเสม็ดอีกอ่า ไปเที่ยวทุกปีเลย
ประมาณว่าต้องเผื่อพวกนี้อีกเดือนละประมาณ 20,000 บาท
สรุป ว่า
ผมต้องได้เงินเดือนมากกว่า 52,500 บาทต่อเดือน
ทุกอย่าง จึงจะสำเร็จตามเป้าหมาย
แล้ว ผมจะเอาเงินเก็บ วันละ 501 บาทมาจากไหนเนี่ย
อ๊าก ส์ ส์ ..
ตอนนี้อายุ 30 ปี เงินเดือน 17,500 บาท
ทำงานอีก 20 ปี อายุ 50 แล้ว
บริษัทเพิ่มเงินเดือน ปีละ 10 เปอร์เซ็นต์ มาดูกัน
อายุ 31 ปี 17,500 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 19,250 บาท
อายุ 32 ปี 19,250 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 21,175 บาท
อายุ 33 ปี 21,175 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 23,293 บาท
อายุ 34 ปี 23,293 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 25,617 บาท
อายุ 35 ปี 25,617 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 28,179 บาท
อายุ 36 ปี 28,179 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 30,997 บาท
อายุ 37 ปี 30,997 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 34,097 บาท
อายุ 38 ปี 34,097 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 37,507 บาท
อายุ 39 ปี 37,507 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 41,258 บาท
อายุ 40 ปี 41,258 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 45,384 บาท
อายุ 41 ปี 45,384 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 49,923บาท
อายุ 42 ปี 49,923 x 10 เปอร์เซ็นต์ = 54,915 บาท
โอเค ผมมาหยุดที่ อายุ 42 ปี ผมได้เงินเดือนมากกว่า ที่กำหนดไว้แล้ว
แต่ ผมมาตั้งหลักได้ที่อายุ 42 ปี เหลืออีก 8 ปีเท่านั้นเอง
ผมจะเก็บเงินตาม แผนได้อย่างไร
ใน เมื่อ ผมตั้งต้นตามแผนที่อายุ 30 ปี นี่นา …
นี่แหละครับ
‘นรก’ บนคราบ เสื้อสูท – ผูกไท
ที่แข่งกันจะเอาเป็นเอาตาย ..
ตั้งหน้า ตั้งตา ตื่นกันแต่เช้า
แข่งกันมาทำงาน กินข้าว ข้างถนน
เลิกงานหมด แรง .. กลางคืนนอนไม่หลับ
มีความฝันที่ เหม่อลอย ไม่รู้จะวางแผนชีวิตให้ตัวเองอย่างไร
บางคนหนักกว่า ไม่รู้เอา สมองคิดหรือเปล่า
สมชาย บอกว่า ‘ผมจะ เรียนปริญญาโท เพื่อจะได้Upgradeตัวเองจะได้ตำแหน่งสูงๆ’
เงิน เดือนเยอะ ๆ
ไอ้ นี้ แหละโง่ เจง ๆ โง่พันธุ์แท้เลย
คนที่ฉลาดกว่าไอ้สมชาย
ก็ คือ คนที่จ่ายเงินให้สมชายทุกเดือน แต่ จบแค่ ม.6
คน เก่งกว่า คือ คนที่ใช้คนที่เก่ง ให้ทำงานให้ตัวเองได้ นั่นเอง
ผมจึงยอมลำบากใน วันนี้
ทิ้ง ‘หนทางที่สวยหรู’ เยี่ยงที่คน จบ ป.ตรี กำลังมุ่งหน้าไป
ผม หันออกมาจากทางเดินนั้น
แล้วจะ เริ่มต้น ขีดและสร้างทางให้ตัวเองใหม่
ใคร จะว่าอย่างไรก็ช่าง
แต่ ผมมีสองอย่างอยู่กับตัว
ที่จะต้องใช้มันไป พร้อมๆ กัน
‘หัวใจ’ กับ ‘สมอง’
ผมจะทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก ด้วยสมอง
นี่คือ คติของผม อันใหม่ ตั้งแต่วันนี้
ผมโละ คติ ขยันทำ งานเพื่อตำแหน่งและเงินเดือนสูงๆ ออกไปแล้ว
ผมยังเห็นเพื่อนๆ ของผม มีความสุขกันดี
อินเทรนกับมือถือใหม่ สังคมวัยทำงาน ที่พบปะสังสรรค์ตอนเย็น
เสาร์ อาทิตย์ พักผ่อน ดูหนังกับแฟน และ เพื่อนๆ
แน่ นอนว่า คงมีไม่กี่คนในนั้น ที่ไปถึงฝั่งฝัน ที่เงินจะเลี้ยงดูเขาได้จนตาย
- – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – -
ทุกวันนี้ ผมเหนื่อยกว่า ครั้งที่ทำงานประจำ ไม่ได้หยุด และ ไม่มีวันหยุด
ผมคิดทุกวัน ว่าจะทำอย่างไร ที่จะหาลูกค้าให้ได้มาก ๆ
ผมบอกใจตัวเองทุกวัน ว่า นี่คืองานที่ผมรัก
ผม รักมัน และ ผมจะทำให้งานที่ผมรักต้องสามารถดูแลชีวิตผมด้วย
ผมจะให้งาน ทำงานแทนผม และ จะให้เงินทำงานของมันเอง
เพื่อผมจะได้หลุดจาก ความหวังที่พวกตะวันตก กำหนดไว้เมื่อ 80 ปีที่แล้วว่า
” ทำงานตรงเวลา (8 โมงเช้า) จ่ายตรงเวลา (ทุก 30 วัน)
เอา แรงมา (ทำงานล่วงเวลา) เอาเงินไป (จ่ายให้ทันที) ”
ซึ่งตอนนี้ ตะวันตก กลับลำ
แล้วมาเอา แนวคิดตะวันออก ไปเขียนหนังสือที่ว่า
“7 habits”
ไปเขียนแล้วให้ พวกเรามาตามก้น มันอีกทีหนึ่ง นั่นเอง

ขอบคุณที่มาของบทความ  จากบล็อกนายแทม

http://www.naitam.com/naitam-life/view.php?id=9
บทความนี้คงมีประโยชน์ ทำให้คุณ ได้ฉุกคิด  อย่าได้ประมาทในการใช้เงิน    นะครับ
" ทรัพย์สิน คือ รายรับ ที่ไหลเข้า   หนี้สิน  คือ รายจ่ายที่ไหล  ออก   "  หนังสือ พ่อรวยสอนลูก
เฉลิม  อานนท์
0851184957
navychalerm@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น