วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เครือข่ายสีขาว


ขอคำแนะนำค่ะ "คนที่ประสบความสำเร็จจริง จะมีองค์ที่ขยายตัวอย่างมั่นคงไปได้เองเรื่อยๆ" นั่นหมายความว่า ถึงเราจะลงทุนโปรโมท ให้มีกลุ่มคนสมัครด้วยมากแค่ไหน แต่ถ้าเขาไม่ลงมือทำไม่มีทัศนคติในแนวทางเดียวกัน ก้อไม่สามารถขยายตัวได้อย่างมั่นคง เพียงแต่ขยายกลุ่มเท่านั้นใช่ไหมคะ....
 ·  ·  · วัน วันอาทิตย์ เวลา 10:50 น.
  • Ning Anis , Sun Pharma และ Kittitat Wasati ถูกใจสิ่งนี้
    • NarongRith Panichsuk สมาชิกในองค์กรเครือข่ายต่างๆ จะมีสามประเภท
      1. เป็นบริโภคอย่างเดียว (Prefered customer)
      2. เป็นผู้บริโภคด้วยและสร้างสายงานธุรกิจได้ด้วย ( Associate )
      3. จะเป็นผู้บริโภคถาวรก็ต่อเมื่อได้รับรายได้จากแผนปันผล(Conditioned)

      กลุ่มแรกและกลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มที่มีเงื่อนไขเหมือนกัน แต่ต่างกันเล็กน้อย

      กลุ่มแรก จะอ่อนไหวไปตามสภาพอารมณ์ ข้อมูลที่ได้รับ และสภาวะการเงินในกระเป๋าตัวเอง
      และพร้อมที่จะเปลี่ยน เมื่อได้พบสิ่งที่ดีกว่า แต่ก็จะเป็นผู้บริโภคที่มี Brand Loyalty สูง

      กลุ่มที่สาม จะให้ความสนใจมากที่สุดต่อผลตอบแทน แต่อาจจะไม่ได้รักสินค้า
      หรือมี Brand Loyalty เท่าใดนัก พร้อมที่จะเปลี่ยนเช่นกัน
      ส่วนใหญ่มักจะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง แต่ก็เป็นคนที่มีเหตุผลเช่นกัน

      กลุ่มที่สร้างความมั่นคงให้องค์กรจริงๆ คือกลุ่มที่สองครับ คือ
      เลือกเพราะรักสินค้าและทุกๆอย่างที่เป็นส่วนของบริษัท
      จะมี Brand Loyalty สูงที่สุด

      การพยากรณ์อัตราการเจริญเติบโตขององค์กร จะมองจากคนกลุ่มนี้เป็นหลัก
      และอัพไลน์ที่มีวิสัยทัศน์ จะให้เวลาสำหรับการเทรนนิ่ง ให้คำปรึกษากับคนกลุ่มนี้มากที่สุด
    • Anna HealthTime ขอบคุณค่ะ เราจะเห็นบางกลุ่มที่เขาพยายามจัดแคมป์ OPPแบบยิ่งใหญ่อลังการก้อเพื่อดึงดูด สมาชิก ทั้ง 3 ประเภทนี้ ถ้าตามความคิดเห็นของคุณ NarongRith Panichsuk และทุกท่านแล้ว มันจำเป็นไหมค่ะ
    • NarongRith Panichsuk ก็อาจจะจำเป็น
      สำหรับกลุ่มที่อยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเอง
      เนื่องจากคนจัด ไม่ได้สร้างบุคลากรในชั้นแรกๆของตัวเองไว้ก่อน
      ประกอบกับการที่รอคอยไม่ได้
      การต้องประคองให้องค์กรเป็นกลุ่มก้อน
      ตัวเองจึงจำเป็นต้องมีภารกิจนี้

      ซึ่งหากมีระบบการส่งต่อ แบบ one-on-one ,เทรนกันได้เป็นรายบุคคล
      ได้ตั้งแต่แรก ก็จะไม่มีความจำเป็นเลย
      องค์กรจะสามารถขยายตัวได้เอ

      ….."คน" "ที่มีศักยภาพ" แล้วนั่นเอง คือ "ระบบ" ของธุรกิจเครือข่ายของเรา
    • Anna HealthTime ชอบมากค่ะ ….."คน" "ที่มีศักยภาพ" แล้วนั่นเอง คือ "ระบบ" ของธุรกิจเครือข่ายของเรา จะยึดถือ เป็นแนวทางปฏิบัติเลยค่ะ :)
    • NarongRith Panichsuk ธุรกิจเครือข่าย นั้นเป็นธุรกิจที่ลงทุนด้วยเวลา
      ไม่ใช่เงินทอง อย่างที่หลายคนชอบสอบถามกันเสมอๆว่า ต้องลงทุนเท่าไหร่ ?
      ค่าสมัครสมาชิกเพื่อเป็นผู้บริโภคนั้น ฟรี
      แต่หากต้องการรหัสเพื่อใช้อ้างอิงในการสร้างสายงานเครือข่าย
      ก็จะต้องจ่ายค่าสมัครเล็กน้อย อย่างมากสุดก็ไม่เกิน 1,000 บาท
      ซึ่งน้อยกว่าค่าอาหารเราบางมื้อด้วยซ้ำไป
      และชุด Starter Kit ของบางบริษัท ที่ให้เรามา มีมูลค่าสูงกว่าค่าสมัครที่เราจ่ายไปด้วยนะครับ

      ส่วนการ active เปิดรหัส ทุกบริษัทจะกำหนดให้เป็นการซื้อสินค้าไปลองใช้เล็กน้อย
      ใช้เงินไม่กี่พันบาทหรือจะทยอยซื้อทีละชิ้นสองชิ้น กระทั่งคะแนนครบขั้นต่ำที่บริษัทกำหนด
      ก็จะได้ศูนย์ธุรกิจโดยอัตโนมัติ (อันนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่มีเงินเลยจริงๆนะครับ
      คือต้องหาคนรับประทานหรือใช้ แทนไปก่อนในช่วงแรก)
      สร้างองค์กรไปก่อนโดยที่ตัวเองยังไม่ต้องซื้อสินค้าเลยก็ย่อมได้
      จนกว่าจะเห็นคะแนนใต้ล่าง มากพอที่จะให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ก็ค่อยซื้อเข้าไปก็ได้

      หากท่านใดเจอคนมาแนะนำให้ลงทุนเป็นเงินหลายๆหมื่น หลายๆแสน …อันนั้นไม่ใช่แล้วครับ
    • NarongRith Panichsuk เวลา ที่ว่านั้นคือทำอะไรบ้าง ?
      ….เรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทที่ตัวเองเลือก ในทุกแง่ทุกมุม
      ….เรียนรู้ทำตามแนวทางที่ upline ติดตัวหรือ Up-the-lines แนะนำดูก่อน หากคิดว่าใช่ก็ก็อปปี้เลย
      ….หาความรู้เพิ่มเติมเอง ตามที่ได้รับการแนะนำ เช่นอ่านหนังสือหรือเข้าสัมนาที่ดีๆ ที่ช่วยพัฒนาตัวเอง
      ….ใช้เวลากับคนที่เราเลือกให้มากที่สุด เพื่อให้เข้าใจได้อย่างเราเร็วที่สุด
      ….และสุดท้าย คือใช้เวลา เป็นที่ปรึกษา ให้กำลังใจกับ Downlines ของตัวเองบ้างตามสมควร

      เมื่อเลือกบริษัทได้ถูกต้องและทำได้อย่างนี้ด้วยแล้ว เครือข่ายของเราจะเติบโตไปได้เองครับ
    • Anna HealthTime ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ ถ้าทำธุรกิจแบบที่กล่าวมานี้ ไม่มีทางหมดตัวแน่นอนค่ะ....
    • NarongRith Panichsuk ความเสี่ยงเดียวที่เราอาจต้องสูญเสียไป คือ เวลา
      และทุกๆคนบนโลกใบนี้ มีต้นทุนตรงนี้เหมือนกันหมด
      แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะครับ ที่จะทำได้
      อัพไลน์คนไหนที่สอนว่า ใครอยู่ใกล้ในระยะห้าเมตร ให้เข้าไปคุย
      นั่นอาจจะยิ่งทำให้ตัวเองเลิกทำเร็วขึ้นนะครับ
      วิทยายุทธแบบนี้ ไม่แนะนำให้ทำ
      เพราะไม่ได้จำเป็นต้องสปอนเซอร์ใครไปเรื่อยๆ
      ขอให้เลือกเฉพาะคนที่เราชอบก็พอแล้วครับ
      ให้เน้นไปที่การเทรนนิ่ง ให้กับคนที่เข้ามาแล้ว
      การ Leverage เกิดขึ้นตรงนั้น ไม่ใช่การสปอนเซอร์คนเข้ามาทิ้งนะครับ
    • Anna HealthTime บอกตามตรงนะคะว่าเคยติดลบ กับธุรกิจเครือข่าย ไม่เคยทำหรอกคะ แต่มีคนรู้จักทำ รู้สึกว่าความคิดเขาเอาเปรียบ ไม่จริงใจ การหลอกล่อให้ทำ ให้ซื้อ เพราะความเกรงใจ บางคนบอกว่า เพราะนี่คือธุรกิจ บางคนทุ่มทุน ลาออกจากงาน ซื้อของ ซื้อตำแหน่ง จนหมดตัว และได้เข้ามาในงานธุรกิจนี้ ก้อเพราะความเกรงใจ ....แต่ตอนนี้มีความมั่นใจ และความศรัทธาในงานนี้ขึ้นมาก เพราะอย่างน้อยก้อยังมี กลุ่มธุรกิจเครือข่ายสีขาว ที่ยังคงไว้ซึ่งทัศนคติที่ดีดี และน่าเชื่อถือค่ะ
    • NarongRith Panichsuk สำหรับตัวผมเอง ไม่คิดว่าเป็นธุรกิจเลย
      แต่เป็นภารกิจที่มีเกียรติมากครับ
      ช่วยให้บางคนได้คิดใหม่ ทำใหม่ เปลี่ยนแปลงอนาคตตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
      ลูกกลมๆในมือ อาจจะเป็นระเบิด......หรือแก้วสารพัดนึกก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ถือ
    • Sun Pharma พี่ริช ตอบได้แบบละเอียดหมดจดจนผมไม่รู้จะเสริมตรงไหนดี ฮ่าๆๆๆๆๆ ^____^
    • Sun Pharma แต่อ่านก็ได้ความรู้มากครับ :)
    • NarongRith Panichsuk ดีใจที่เห็นคุณซัน เข้ามาสนทนาด้วยนะครับ
      ขอให้สุขภาพดีวันดีคืน จะได้มานั่งจิบน้ำชากันสักครั้ง
      เผื่อผมไปเที่ยวพัทยา อาจจะแวะไปเยี่ยมเยือนได้บ้าง
      ที่ชลบุรี มีร้านที่บรรยากาศน่ารักๆแนะนำมั๊ยครับ ?
    • SaLee Airways อ่านหัวข้อนี้จบเหมือนได้อ่านหนังสือจบไปหนึ่งเล่ม โดยการสรุปจากพี่ริช อิอิ เหมาะกับคนไม่ชอบอ่านหนังสืออย่างสาลี่ 55 ขอคุณค้าบบ ^^
    • Poj Niramittanon สมบูรณ์แบบทุกคำตอบเยี่ยมมากๆเลยครับ ได้ความรู้เพิ่มตามไปด้วย
    • Ning Anis อุตส่าห์แอบดูอยู่ห่างๆแล้วน่ะเนี้ยะ คุณสา นิสัยเหมือนกันเล้ย ไลท์ๆๆ อ่ะ อิอิ
    • Sun Pharma แน่นอนครับ พี่ริช...ได้พบออฟไลน์ กันเร็วๆ นี้ครับ :)
    • เฉลิม อานนท์ กระทู้นี้คุ้ม จริง ๆ ครับ พี่ริช

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Abraham Maslow

โพสดี ๆ นำมาฝากครับ.... จาก ชมรมคนคิดบวก  โดย    พี่   ณรงค์ฤทธิ์   .....

ทำไมจึงมีหลายคนรอบตัวเรา ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองและยกระดับคุณภาพชีวิตได้สำเร็จ ?

เพราะสลัดความเคยชินได้ ไม่กลัวที่จะออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ เช่นโค้ชนางฟ้าของชมรม
หรือเพราะมีแรงจูงใจอะไร ?

โค้ชนางฟ้าจึงยอมแทนค่าลงไปในสมการ ( โอกาส + ลงมือทำอย่างต่อเนื่อง --> สำเร็จ )

คนส่วนใหญ่มักเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ช้าหรือไม่สำเร็จ เพราะมักจะรอให้มีแรงผลักดัน เช่นตกงาน เบื่อหรือต้องอดทนงานเก่าไม่ไหวเสียก่อน จึงค่อยมองหาอะไรใหม่ๆ
(อุปนิสัย : ขอแค่ให้พ้นๆไปก่อน ทำอะไรก็พอใจแค่พอให้ผ่านๆ ไม่ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ )

*ความใฝ่ฝัน คือแรงบันดาลใจ เป็นแรงจูงใจเชิงบวก ที่มีพลังงานมากที่สุด

สำคัญมากที่ต้องมีเป้าหมายไว้ก่อน เหมือนการกำหนดทิศทางให้กับชีวิ
ของคุณเอง ตั้งเป้าหมายไว้ที่ระดับไหน ?
กำหนดไว้แค่ไหน ชีวิตนี้จะทำได้แค่นั้นจริงๆนะครับ

เลือกใหม่ได้ตามใจชอบเลยครับ (^___^)



 ·  ·  · ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว

  • คุณ, อ๊อด กุณฑี , Siriluck TansiriSiratcha Lbsk และ 12 อื่นๆถูกใจสิ่งนี้

    • Siratcha Lbsk เห็นด้วยยยย..เราเลือกได้ค๊าาา..

    • Siriluck Tansiri ขอบคุณคุณริชมากๆๆๆค่ะ แนะนำไว้ได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ... โค้ชขอเพิ่มเติมนิดนึงคือ "การมีจิตตั้งมั่นกับการสร้างคุณค่าอะไรบางอย่างที่เราให้คุณค่าในเรื่องนั้น" ... ถ้าเรามีจิตที่ตั้งมั่นอยู่กับคุณค่านั้น แล้วลงมือทำให้ผลแห่งคุณค่านั้นปรากฎ ชีวิตเราจะสุดยอดมากๆๆๆเลยค่ะ ^___________^

    • ชูเดช ประชาชน คนคิดบวก 
      ตาราง Hierarchy of need ของ Abraham Maslow นี้ เป็นอมตะจริง ๆ ครับ ขออธิบายเพิ่มเติม ตารางหน่อยนะครับ เผื่อใครอยากรู้่ว่า ตารางนี้คืออะไร Maslow ได้ให้นิยามความต้องการพื้นฐานจของคนเราไว้ 5 ชั้น ไล่ตั้งแต่ความต้องการต่ำสุด จนถึงขั้นสูงสุดดังนี้ครับ

      Physiological need คือ พวกพื้นฐานครับ อาหาร น้ำ อากาศ
      Safety need คือ ทุกสิ่งอย่างที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย
      Love need คือ ต้องการความรัก จากผู้อื่น เข่นครอบครัว เพื่อน
      Esteem need คือ ความรู้สึก เชื่อมั่นในตัวเอง หรือ การยอมรับและยกย่องจากคนอื่
      Self-Actualization need คือ การเข้าใจตัวเอง เพื่อบรรลุถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง ( อันนี้ คนส่วนใหญ่ ยังไปไม่ถึงครับ )

      เมื่อเราเข้าใจว่า ชีวิตคนเราต้องการอะไรบ้างแล้ว ก็มาพิจารณาดูว่า เราควร เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น และ มีความสุขครับ หลักใหญ่ใจความก็คือ คิด + วางแผน + การลงมือทำครับ

      และเห็นด้วยกับโค้ชครับ ว่า " เราต้องมีจิตตั้งมั่น กับการสร้างคุณค่ากับอะไรบางอย่างที่เราให้คุณค่าในเรื่องนั้น "

      ผมขอขยายความจากโค้ช (ไม่แน่ใจว่า เ้ข้าใจถูกหรือไม่ครับ ) เช่น ถ้า ผมมีจิตตั้งมั่น ที่จะเป็น นักบัญชีที่เก่งที่สุด แล้ว ผมก็จะทำทุกวิถีทาง เรียนรู้ทุกอย่าง เพื่อที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็น นักบัญชีที่ เก่งที่สุึดครับ

      ขอบคุณเพื่อนริช สำหรับเรื่องดี ๆ (อีกแล้ว)